ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับ HFM ในประเทศไทย
HFM คือแพลตฟอร์มเทรดออนไลน์ที่ให้บริการครบถ้วนในประเทศไทย โดยเรามีระบบที่รองรับการเทรดทั้ง Forex และ CFD ซึ่งรวมถึงดัชนีสินค้าโภคภัณฑ์ เรายึดมั่นในความปลอดภัยและความรวดเร็วในการดำเนินงาน ระบบของเราถูกควบคุมโดยหน่วยงานกำกับดูแลที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้ลูกค้าในไทยมั่นใจในการลงทุนอย่างเต็มที่ เรามีทีมสนับสนุนลูกค้าภาษาไทยที่พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงในวันทำการ
แพลตฟอร์มของเรามีบัญชีผู้ใช้งานมากกว่า 50,000 บัญชีในประเทศไทย โดยมีปริมาณการเทรดรายวันเฉลี่ยกว่า 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ระบบฝาก-ถอนเงินใช้เวลาประมวลผลเพียง 15 นาทีเท่านั้น
| ประเภทบัญชี | เงินฝากขั้นต่ำ | สเปรดเริ่มต้น | เลเวอเรจสูงสุด |
|---|---|---|---|
| Cent Account | 5 ดอลลาร์ | 1.0 pips | 1:1000 |
| Premium Account | 100 ดอลลาร์ | 0.8 pips | 1:500 |
| Zero Account | 200 ดอลลาร์ | 0.0 pips | 1:500 |
เราให้บริการเทรดทั้งคู่สกุลเงินและ CFD เช่น ดัชนีและสินค้าโภคภัณฑ์ พร้อมเครื่องมือเทรดที่ทันสมัยและระบบที่เสถียร เหมาะสำหรับนักลงทุนในประเทศไทยทุกระดับ
วิธีการสมัครสมาชิกและตั้งค่าบัญชี
ขั้นตอนการลงทะเบียนเบื้องต้น
เข้าสู่เว็บไซต์ HFM ประเทศไทย คลิกปุ่ม “สมัครสมาชิก” สีเขียวที่หน้าแรก กรอกข้อมูลส่วนตัวตามแบบฟอร์มโดยระบุประเทศไทยเป็นประเทศที่อาศัย ใช้อีเมลที่ใช้งานจริง และตั้งรหัสผ่านที่มีความปลอดภัย จากนั้นยอมรับเงื่อนไขการใช้งานและกด “ลงทะเบียน”
ระบบจะส่งอีเมลยืนยันไปยังกล่องจดหมายของคุณ ให้เปิดอีเมลและคลิกที่ลิงก์เพื่อเปิดใช้งานบัญชี ซึ่งใช้เวลาไม่เกิน 5 นาที หลังจากนั้นสามารถเข้าสู่ระบบเพื่อเริ่มต้นใช้งานได้ทันที
การกรอกข้อมูลส่วนบุคคล
หลังจากยืนยันอีเมลแล้ว เข้าสู่พื้นที่ “My HF” เพื่อกรอกข้อมูลส่วนตัวให้ครบถ้วน เช่น ชื่อ-นามสกุล วันเดือนปีเกิด และเบอร์โทรศัพท์ที่ใช้งานจริง เลือกสกุลเงินหลักของบัญชี (แนะนำเป็นบาทไทยหรือดอลลาร์สหรัฐ) และยืนยันว่าคุณไม่ใช่พลเมืองสหรัฐอเมริกา
ขั้นตอนนี้ใช้เวลาประมาณ 3-5 นาที เพื่อให้ข้อมูลถูกต้องและเป็นปัจจุบัน ซึ่งจะช่วยให้การยืนยันตัวตนและการใช้งานบัญชีเป็นไปอย่างรวดเร็วและปลอดภัย
ขั้นตอนการยืนยันตัวตนและที่อยู่
การกรอกข้อมูลที่อยู่
เข้าสู่เมนูบัญชี เลือก “ยืนยันบัญชี” แล้วกรอกข้อมูลที่อยู่ในประเทศไทยให้ครบถ้วน เช่น จังหวัด รหัสไปรษณีย์ และถนนที่อาศัย ข้อมูลนี้ต้องตรงกับเอกสารทางราชการเพื่อใช้ในการยืนยันตัวตน
ตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องก่อนยืนยัน เพราะความผิดพลาดจะทำให้กระบวนการล่าช้าได้ เราแนะนำให้ใช้ที่อยู่ที่ตรงกับบัตรประชาชนหรือใบเสร็จรับเงินที่ออกโดยหน่วยงานราชการ
กระบวนการยืนยันตัวตน
มีสองวิธีสำหรับการยืนยันตัวตน: วิธีอัตโนมัติกรอกหมายเลขบัตรประชาชนและป้อนรหัสยืนยันที่ส่งไปทางอีเมล หรือวิธีแมนนวลโดยการอัปโหลดรูปถ่ายบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทางผ่านระบบ
การยืนยันแบบแมนนวลจะใช้เวลา 1-2 วันทำการ หลังจากผ่านการตรวจสอบแล้ว ระบบจะแจ้งเตือนและอนุมัติบัญชีภายในไม่กี่นาที ซึ่งช่วยให้คุณสามารถเริ่มเทรดได้ทันทีโดยไม่มีข้อจำกัด
ประเภทบัญชีเทรดและแพลตฟอร์ม
การเลือกประเภทบัญชี
เข้าสู่แดชบอร์ดบัญชี เลือก “เปิดบัญชีจริง” หรือ “บัญชีทดลอง” เพื่อเริ่มต้นเทรด บัญชี Cent เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นด้วยเงินฝากขั้นต่ำ 5 ดอลลาร์ บัญชี Premium เหมาะสำหรับนักเทรดทั่วไป โดยมีสเปรดที่ต่ำกว่าและเงินฝากขั้นต่ำ 100 ดอลลาร์ บัญชี Zero เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสเปรดต่ำสุด
แพลตฟอร์มการเทรดที่รองรับ
เราให้บริการผ่านแพลตฟอร์มหลัก 4 รูปแบบได้แก่ HFM Trading App สำหรับมือถือ, MetaTrader 5 (MT5), MetaTrader 4 (MT4), และ Web Terminal ที่ใช้ผ่านเว็บเบราว์เซอร์โดยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรม
HFM Trading App รองรับ iOS 12.0 ขึ้นไปและ Android 6.0 ขึ้นไป MT5 รองรับการเทรด Forex และ CFD พร้อมกัน MT4 เหมาะสำหรับการเทรด Forex ส่วน Web Terminal สามารถใช้งานบน Chrome, Firefox, Safari และ Edge ได้อย่างราบรื่น
วิธีการฝากเงินและถอนเงิน
เรารองรับการฝากเงินด้วยหลายช่องทางในประเทศไทย เช่น การโอนผ่านธนาคารไทย ได้แก่ กสิกรไทย, ไทยพาณิชย์, กรุงเทพ, กรุงไทย รวมถึงบัตรเครดิตและบัตรเดบิต และสกุลเงินดิจิทัลอย่าง Bitcoin, Ethereum, และ Tether (USDT)
จำนวนเงินฝากขั้นต่ำเริ่มที่ 50 ดอลลาร์สหรัฐ การฝากผ่านบัตรเครดิตจะเข้าบัญชีทันที ส่วนการโอนผ่านธนาคารจะใช้เวลาประมวลผล 1-3 ชั่วโมงในวันทำการ
| วิธีการฝาก | เวลาประมวลผล | ค่าธรรมเนียม | จำนวนขั้นต่ำ |
|---|---|---|---|
| โอนธนาคาร | 1-3 ชั่วโมง | 0% | 50 ดอลลาร์ |
| บัตรเครดิต | ทันที | 2.5% | 10 ดอลลาร์ |
| สกุลเงินดิจิทัล | 15-30 นาที | 0% | 25 ดอลลาร์ |
การถอนเงินใช้เวลาเฉลี่ย 15 นาทีสำหรับการอนุมัติ และ 1-5 วันทำการสำหรับการโอนกลับธนาคาร ส่วนการถอนผ่านสกุลเงินดิจิทัลจะเสร็จภายใน 1-2 ชั่วโมง จำนวนเงินถอนขั้นต่ำคือ 10 ดอลลาร์สหรัฐ
การใช้งานแพลตฟอร์มเทรด
การเข้าใช้งาน Web Terminal
หลังล็อกอิน คลิก “เทรด” ข้างบัญชีของคุณ แล้วเลือก “MT5 Web Terminal” หรือ “HFM Platform” เพื่อเข้าสู่ระบบเทรดผ่านเว็บโดยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรม ใส่ข้อมูลล็อกอินที่ได้รับทางอีเมล ระบบจะโหลดหน้าต่างเทรดหลักทันที
Web Terminal รองรับเว็บเบราว์เซอร์ Chrome 80+, Firefox 75+, Safari 13+, Edge 80+ ความเร็วอินเทอร์เน็ตขั้นต่ำ 1 Mbps เพื่อการใช้งานที่ราบรื่น และบันทึกการตั้งค่าของคุณโดยอัตโนมัติ
การสั่งซื้อและขาย
เมื่อเข้าใช้งานแล้ว เลือกคู่สกุลเงินหรือสินทรัพย์ที่ต้องการเทรด กำหนดขนาดล็อต กำหนดราคาที่ต้องการซื้อหรือขาย พร้อมตั้งค่า Stop Loss และ Take Profit หากต้องการ ระบบจะแสดงข้อมูลบัญชีและตำแหน่งเปิดแบบเรียลไทม์
ประวัติการเทรดจะถูกบันทึกในเมนู “ประวัติ” เพื่อให้คุณตรวจสอบและวิเคราะห์ผลกำไรขาดทุนได้อย่างละเอียด
การตั้งค่าการจัดการความเสี่ยง
เราแนะนำให้ตั้งค่า Stop Loss และ Take Profit บนแพลตฟอร์ม MT5 เพื่อป้องกันความเสียหายจากความผันผวน Stop Loss จะจำกัดการขาดทุนสูงสุด ส่วน Take Profit จะช่วยล็อกกำไรเมื่อถึงเป้าหมาย
เลเวอเรจสูงสุดสำหรับบัญชี Cent คือ 1:1000 ขณะที่บัญชี Premium และ Zero คือ 1:500 เราแนะนำให้ใช้เลเวอเรจอย่างระมัดระวังเพื่อควบคุมความเสี่ยง
- คำนวณขนาดล็อตตามความเสี่ยงที่ยอมรับได้
- ตั้ง Stop Loss ทุกครั้งที่เปิดเทรด
- หลีกเลี่ยงการเพิ่มตำแหน่งเมื่อขาดทุน
- รักษาอัตราส่วน Risk-Reward อย่างน้อย 1:2
- ใช้ Trailing Stop สำหรับการเทรดระยะยาว
เครื่องมือวิเคราะห์และกราฟ
แพลตฟอร์มของเรามีเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคมากกว่า 80 ตัว เช่น Moving Average, RSI, MACD, Bollinger Bands และ Fibonacci Retracement กราฟแสดงผลเรียลไทม์ด้วยความล่าช้าต่ำกว่า 50 มิลลิวินาที พร้อมรองรับไทม์เฟรมตั้งแต่ 1 นาทีถึง 1 เดือน
ข้อมูลข่าวสารทางเศรษฐกิจอัปเดตแบบเรียลไทม์จาก Reuters และ Bloomberg พร้อมปฏิทินเศรษฐกิจที่แสดงเหตุการณ์สำคัญ เราสามารถตั้งแจ้งเตือนราคาผ่าน SMS หรืออีเมลได้ตามต้องการ
| เครื่องมือวิเคราะห์ | จำนวนตัวชี้วัด | ไทม์เฟรมรองรับ | ความล่าช้าข้อมูล |
|---|---|---|---|
| เทคนิคัลแอนาไลซิส | 80+ ตัว | 1M – 1MN | <50ms |
| ข่าวเศรษฐกิจ | เรียลไทม์ | ทุกวัน | <5 วินาที |
| ปฏิทินเศรษฐกิจ | ครบถ้วน | รายสัปดาห์ | อัปเดตทันที |
ระบบสามารถบันทึกเทมเพลตวิเคราะห์ที่ใช้บ่อย และซิงค์ข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ Expert Advisor (EA) รองรับการติดตั้งบน MT4 และ MT5 พร้อมฟีเจอร์แบ็กเทสต์กลยุทธ์ด้วยข้อมูลย้อนหลังถึง 10 ปี